วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2558

วิธีดูผู้ติดยาเสพติด

วิธีสังเกตอาการของผู้ใช้สารเสพติด
            ร่างกายทรุดโทรม ซูบผอม อ่อนเพลีย ผิวหน้าหยาบกร้าน ตาสู้แสงแดดไม่ได้ ลุกลี้ลุกลน ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง ขาดความรับผิดชอบ พฤติกรรมเปลี่ยน อาการเมื่อขาดสารเสพติดจะมีอาการขนลุก เหงื่อออก น้ำมูกน้ำตาไหล กระสับกระส่าย หายใจถี่ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเดิน ปวดศีรษะและกระดูก นอนไม่หลับ
            การตรวจพิสูจน์หาสารเสพติดในร่างกาย สามารถทำได้ 2 วิธี คือ
1. ทดลองด้วยยา โดยการฉีดยาทำลายฤทธิ์ของสารเสพติด ทำให้เกิดอาการขาดยา
2. การเก็บปัสสาวะ หรือเลือด (เฉพาะในกรณีการตรวจแอลกอฮอล์และสารละเหย) เพื่อหาสารเสพติดในร่างการ ซึ่งสามารถแยกชนิดของสารเสพติดได้
            สาเหตุของการติดสารเสพติดให้โทษ
1. สาเหตุทางด้านบุคคล
1.1 ถูกชักชวน
1.2 สภาพความกดดันทางครอบครัว  เช่น การทะเลาะกันของพ่อแม่
1.3 ความจำเป็นในการประกอบอาชีพ เช่น คนขับรถหรือลูกเรือในทะเล
1.4 เกิดความเจ็บป่วยทางกายหรือทางจิตใจ อาจมีการใช้สารเสพติดเพื่อบรรเทาอาการป่วยทางกายและทางจิตบางชนิดนานติดต่อกันจนติดยาได้
1.5 ถูกหลอกลวงโดยผู้รับไม่ทราบว่าสิ่งที่ตนรับมาเป็นสารเสพติดหรือโดยการผสมปลอมปนกับอาหาร ของขบเคี้ยว
2.  สาเหตุจากตัวยาหรือสารเสพติด
            ตามปกติแล้วตัวยาหรือสารเสพติดจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาใดๆ ถ้าคนไม่นำมาใช้ แต่เมื่อบุคคลใช้ยาหรือสารเสพติด คุณสมบัติเฉพาะของสารนั้นจะทำให้เกิดการเสพติดได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดและขนาดของสารเสพติดที่ใช้
3. สาเหตุจากสภาพแวดล้อม
            3.1 อยู่ในแหล่งที่มีการซื้อ-ขาย หรือเสพ สารเสพติด
            3.2 สภาพแวดล้อมบังคับ โดยเฉพาะผู้ที่ติดสารเสพติดแล้วต้องการจะเลิกเสพเมื่อเข้ารับการรักษาหายแล้ว สังคมอาจจะไม่ยอมรับ แหล่งงานปฏิเสธการรับเข้าทำงาน เนื่องจากมีประวัติติดสารเสพติด จึงทำให้ต้องกลับไปอยู่ในสังคมสารเสพติดเช่นเดิม
            โทษและพิษภัยของสารเสพติด
1. ต่อผู้เสพ ทำให้สุขภาพทรุดโทรมทั้งร่างกายและจิตใจ เกิดโรคต่างๆ
2. ต่อครอบครัว ก่อให้เกิดความเดือดร้อน สูญเสียรายได้ เกิดความไม่สงบสุขภายในครอบครัว
3. ต่อสังคม ก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรม
4. ต่อประเทศชาติ ทำให้สูญเสียเศรษฐกิจจำนวนมหาศาล และบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ      


การป้องกันสารเสพติด
            ปัญหาสารเสพติดเป็นปัญหาและหน้าที่ของทุกๆคนทุกๆหน่วยงานต้องร่วมรับผิดชอบและร่วมมือกันดำเนินการในด้านการป้องกันสารเสพติด ควรเริ่มต้นจากเด็กและเยาวชนให้รู้จักการป้องกันตนเองจากสารเสพติดได้ เพราะเด็กและเยาวชนเป็นทรัพยากรบุคคลอันมีค่าที่จะเป็นพลังสำคัญต่อสังคมและประเทศชาติต่อไปในอนาคต มาตรการเพื่อป้องกันสารเสพติด
            การบำบัดรักษาและการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดสารเสพติด
            การบำบัดรักษาผู้ติดสารเสพติด หมายถึง การดำเนินงานเพื่อแก้ไขสภาพร่างกายและจิตใจของผู้ติดสารเสพติดให้เลิกจากการเสพ และสามารถกลับไปดำรงชิวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติ สามารถแบ่งระบบการรักษาออกเป็น 3 ระบบ คือ
1. ระบบสมัครใจ หมายถึง การที่ผู้ติดสารเสพติดสมัครใจ มีความพร้อมที่จะเข้ารับการบำบัดรักษาในสถานพยาบาลต่างๆ ทั้งของรัฐและเอกชน
2. ระบบต้องโทษ หมายถึง การที่ผู้ติดสารเสพติดกระทำความผิดและถูกคุมขัง จะต้องเข้ารับการบำบัดรักษาในสถานพยาบาลที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย

3. ระบบบังคับ หมายถึง การใช้กฎหมายบังคับตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. 2534 โดยการตรวจพิสูจน์หาสารเสพติดหากตรวจพบว่ามีสารเสพติดในร่างกาย ผู้เสพติดจะต้องเข้ารับการบำบัดรักษาในสถานพยาบาลที่จัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ. ดังกล่าวเป็นระยะเวลา 6 เดือน หรืออาจจะขยายหรือลดระยะเวลา การบำบัดรักษาได้ แต่รวมแล้วไม่เกิน 3 ปี เพื่อให้การบำบัดรักษาผู้ติดสารเสพติดได้อย่างเด็ดขาด 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น